
วิธีเล่นบาคาร่า เรียนรู้กติกา พื้นฐาน และความเข้าใจในเกมไพ่อันดับ 1
หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่เริ่มสนใจเกม บาคาร่าออนไลน์ แต่ยังไม่เข้าใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ต้องรู้อะไรบ้างก่อนที่จะวางเดิมพันจริง หรือแม้กระทั่งสงสัยว่าเกมไพ่นี้แตกต่างจากเกมพนันอื่น ๆ อย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจได้อย่างเป็นระบบ เราจะพาไปรู้จักตั้งแต่พื้นฐานของเกม วิธีเล่นบาคาร่า แบบละเอียด ประวัติความเป็นมาเบื้องต้น วิธีการนับแต้ม และเป้าหมายของเกมที่มือใหม่ควรเข้าใจ เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นเดิมพันบาคาร่าได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะเล่นบนเว็บคาสิโนออนไลน์ทั่วไป หรือแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Ufabet ก็ตาม จุดสำคัญคือการเข้าใจว่า บาคาร่าไม่ใช่เกมที่ใช้แค่ดวงอย่างเดียว แต่มีระบบ มีความน่าจะเป็น และมีวิธีคิดในเชิงวิเคราะห์ที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะได้ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยดวงเพียงอย่างเดียว
เป้าหมายของเกมบาคาร่า เลือกให้ถูกฝั่ง แล้วรอผลลัพธ์
หลักการของวิธีเล่นบาคาร่าไม่ซับซ้อน ผู้เล่นมีหน้าที่ “เลือกฝั่ง” ที่คิดว่าจะชนะ โดยไม่ต้องถือไพ่เอง ซึ่งต่างจากเกมไพ่ประเภทอื่น ๆ ที่ผู้เล่นต้องใช้ทักษะในการเล่นไพ่ในมือ เป้าหมายคือการทายว่าฝ่าย Player (ผู้เล่น) หรือ Banker (เจ้ามือ) จะเป็นฝ่ายที่มีแต้มรวมใกล้เคียง 9 มากที่สุด หากต้องการเดิมพันว่าเสมอก็สามารถเลือกวางที่ Tie (เสมอ) ได้เช่นกัน ซึ่งหากทายถูก ก็จะได้รับผลตอบแทนตามอัตราการจ่ายที่ระบบกำหนดไว้
สำหรับมือใหม่: อย่าเพิ่งรีบเล่นจริง ก่อนเข้าใจ “ระบบ” ของเกม
หลายคนเห็นว่าเล่นง่าย ก็เริ่มเดิมพันทันที โดยไม่เข้าใจกลไกของเกมและการจ่ายเงิน ซึ่งเป็นจุดที่อาจทำให้เสียเงินเร็วโดยไม่รู้ตัว ผมแนะนำว่าให้ทดลองเล่น บาคาร่าเดโม่ หรือดูเกมจริงก่อนสัก 10–20 ตา เพื่อเรียนรู้จังหวะ การออกไพ่ และพฤติกรรมของแต่ละห้อง
คำแนะนำ
บาคาร่าออนไลน์อาจดูเรียบง่าย แต่จริง ๆ แล้วเป็นเกมที่ซ่อนความซับซ้อนอยู่ในเชิงสถิติและจิตวิทยาผู้เล่น หากคุณเข้าใจกติกา รู้จักการวิเคราะห์เค้าไพ่ และควบคุมอารมณ์ได้ เกมนี้สามารถเป็นเครื่องมือที่ให้ทั้งความบันเทิงและกำไรได้อย่างสมเหตุสมผล
แต่จำไว้อย่างหนึ่งครับว่า ไม่มีสูตรตายตัว ไม่มีการันตีเงินล้านในบาคาร่า การเล่นที่ดีคือการ “รู้ว่าเมื่อไรควรพอ” และ “เล่นด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่ความเชื่อผิด ๆ”
เจาะลึกกติกา วิธีเล่นบาคาร่าออนไลน์ แบบมืออาชีพ พร้อมตัวอย่างสถานการณ์จริง
สำหรับหลายคนที่เริ่มต้นจากการ “สมัครบาคาร่า” ด้วยความสนุกหรืออยากรู้ว่าเกมนี้มีความพิเศษตรงไหน พอเล่นไปสักพักก็จะเริ่มพบว่าบาคาร่าไม่ได้เป็นแค่เกมวัดดวง แต่มันมี “ระบบ” ที่ชัดเจนมาก ทั้งในด้านกติกา ความได้เปรียบของฝั่งเจ้ามือ รวมถึงจังหวะที่เหมาะในการวางเดิมพัน หากคุณต้องการยกระดับจากผู้เล่นทั่วไปไปสู่การเป็น “ผู้เล่นเชิงกลยุทธ์” บทความนี้จะอธิบาย กติกาบาคาร่า ในระดับลึก พร้อมแสดง ตัวอย่างสถานการณ์จริง ที่มือโปรใช้วิเคราะห์เพื่อวางแผนการแทงอย่างแม่นยำ
โครงสร้างการแจกไพ่ในบาคาร่า ระบบที่มีเหตุผล ไม่ใช่สุ่มมั่ว
หนึ่งในจุดที่ผู้เล่นหลายคนมองข้ามคือ “ระบบการแจกไพ่” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ วิธีเล่นบาคาร่าออนไลน์ เกมนี้เริ่มต้นโดยมีการแจกไพ่ให้กับ 2 ฝั่ง คือ Player (ผู้เล่น) และ Banker (เจ้ามือ) ฝั่งละ 2 ใบ ระบบจะพิจารณาแต้มรวมของไพ่สองใบแรก หากแต้มฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้ 8 หรือ 9 แต้ม จะเรียกว่า “ป๊อก” และเกมจะจบทันทีโดยไม่มีการจั่วไพ่เพิ่มเติม แต่หากทั้งสองฝั่งยังไม่ป๊อก ระบบจะเข้าสู่กระบวนการ “เรียกไพ่ใบที่ 3” ซึ่งไม่ใช่การตัดสินใจของผู้เล่น แต่เป็น กฎตายตัวตามตารางเงื่อนไข
กติกาการจั่วไพ่ใบที่ 3 ไม่ใช่การเดา แต่เป็นตรรกะ
สำหรับฝั่ง Player
แต้มรวม 0–5: จั่วไพ่เพิ่ม
แต้ม 6–7: ไม่จั่ว
แต้ม 8–9: ป๊อก ไม่ต้องจั่ว
สำหรับฝั่ง Banker
การจั่วไพ่ของ Banker จะพิจารณาทั้งแต้มของตัวเอง และไพ่ใบที่สามของ Player ซึ่งมีตารางควบคุมดังนี้
แต้ม Banker | ไพ่ใบที่สามของ Player | Banker จั่วหรือไม่ |
---|---|---|
3 | ไม่ใช่ 8 | จั่ว |
4 | 2–7 | จั่ว |
5 | 4–7 | จั่ว |
6 | 6–7 | จั่ว |
7 | ไม่จั่ว | — |
ระบบ บาคาร่าออนไลน์ จะคำนวณให้อัตโนมัติ ดังนั้นผู้เล่นไม่จำเป็นต้องจำทุกเงื่อนไข แต่ถ้าเข้าใจ จะช่วยให้วิเคราะห์ไพ่และวางแผนล่วงหน้าได้แม่นขึ้น
ตำแหน่งเดิมพันในบาคาร่า ไม่ได้มีแค่ Player กับ Banker

แม้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะเลือกวางเดิมพันในฝั่ง Player หรือ Banker เป็นหลัก แต่ความจริงแล้วบาคาร่าเปิดโอกาสให้เลือกเดิมพันในตำแหน่งอื่นที่สร้างโอกาสทำกำไรสูงขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงมากขึ้นก็ตาม
Tie (เสมอ) – จ่าย 8:1 หรือ 9:1 แล้วแต่ค่าย
Player Pair / Banker Pair – แทงว่าฝั่งใดจะได้ไพ่คู่สองใบแรก (จ่าย 11:1)
Perfect Pair – ไพ่คู่ที่เหมือนกันทั้งดอกและแต้ม (จ่ายสูงถึง 25:1)
Big / Small – เดิมพันตามจำนวนไพ่ที่เปิด (4 ใบ/5–6 ใบ)
การเข้าใจตำแหน่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเลือกเดิมพันอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ โดยเฉพาะในรอบที่เค้าไพ่ “นิ่ง” และมีรูปแบบชัดเจน
ตัวอย่างสถานการณ์จริง วิเคราะห์เกมบาคาร่าแบบมือโปร
สถานการณ์
คุณเข้าร่วมเล่นบาคาร่าออนไลน์ในห้องของค่าย Sexy baccarat บนเว็บ Ufabet
รอบก่อนหน้า Banker ชนะ 3 ตาติด
คุณวางเดิมพันที่ Banker ด้วยทุน 500 บาท
ระบบแจกไพ่:
Player: 4 + 2 = 6
Banker: 3 + 2 = 5
เนื่องจาก Player มี 6 แต้ม จะไม่จั่วไพ่เพิ่มเติม ส่วน Banker มี 5 แต้ม ระบบจะพิจารณาจากว่า Player ไม่ได้จั่วใบที่สาม Banker จึง ไม่จั่วเพิ่ม เช่นกัน
ผลลัพธ์: Player ชนะ ด้วย 6 แต้ม vs 5 แต้ม
บทเรียนจากสถานการณ์นี้คือ ถึงแม้ว่าเค้าไพ่จะชี้ไปทาง Banker แต่ในกรณีแต้มใกล้กันแบบนี้ ความผันผวนเกิดขึ้นได้เสมอ การเข้าใจ “กฎจั่วไพ่ใบที่สาม” จึงช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงได้ดีขึ้นก่อนวางเงินเดิมพัน
คู่มือวิธีเล่นบาคาร่า วิธีการวางเดิมพันในแต่ละรูปแบบ พร้อมคำแนะนำ
รูปแบบการวางเดิมพันหลักในบาคาร่า
ในเกม บาคาร่าออนไลน์ แบบมาตรฐาน (Punto Banco) จะมีตำแหน่งเดิมพันพื้นฐานให้เลือกหลัก ๆ ดังนี้
หนึ่งในเหตุผลที่บาคาร่าออนไลน์กลายเป็นเกมยอดนิยมในทุกเว็บคาสิโน ก็คือความเรียบง่ายที่ซ่อนความลึกไว้ได้อย่างมีชั้นเชิง ผู้เล่นใหม่หลายคนมักเริ่มต้นจากการ “เลือกฝั่งแทง” แบบไม่คิดมาก แต่เมื่อได้เล่นจริงแล้วจะเริ่มพบว่า รูปแบบการวางเดิมพันบาคาร่า มีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีความเสี่ยง ผลตอบแทน และโอกาสชนะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
บทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจ “วิธีเดิมพันบาคาร่า” อย่างเป็นระบบ พร้อมคำแนะนำในการเลือกใช้แต่ละแบบให้เหมาะกับเป้าหมายและสไตล์การเล่นของคุณ โดยเฉพาะหากคุณเพิ่งเริ่มต้น และต้องการเล่นอย่างมีแบบแผนตั้งแต่ต้น
Player (ผู้เล่น)
แทงว่าฝั่ง Player จะชนะ อัตราจ่าย 1:1
โอกาสชนะประมาณ 44.6%
Tie (เสมอ)
แทงว่าทั้งสองฝั่งจะได้แต้มเท่ากัน อัตราจ่าย 8:1 หรือ 9:1
โอกาสเกิดจริงประมาณ 9.5%
Banker (เจ้ามือ)
แทงว่าฝั่ง Banker จะชนะ อัตราจ่าย 0.95:1 (หัก 5% ค่าคอมมิชชั่น)
โอกาสชนะสูงสุดในเกม 45.8%
ตำแหน่งเดิมพันพิเศษ เสี่ยงสูง แต่กำไรสูง
แม้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะเลือกวางเดิมพันในฝั่ง Player หรือ Banker เป็นหลัก แต่ความจริงแล้วบาคาร่าเปิดโอกาสให้เลือกเดิมพันในตำแหน่งอื่นที่สร้างโอกาสทำกำไรสูงขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงมากขึ้นก็ตาม
Player Pair / Banker Pair
แทงว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝั่งนั้นจะออกเลขเดียวกัน (เช่น 6-6 หรือ K-K)
อัตราจ่าย 11:1
โอกาสเกิดจริงประมาณ 7–10%
Perfect Pair
ไพ่คู่ที่เหมือนกันทั้งแต้มและดอก (เช่น 7♠ – 7♠)
อัตราจ่ายสูงสุดถึง 25:1
Big / Small
แทงตามจำนวนไพ่ที่ใช้ในรอบนั้น
Small = ชนะด้วยไพ่ 4 ใบ
Big = เกมมีการจั่วเพิ่ม ใช้ไพ่ 5–6 ใบ
เปรียบเทียบความเสี่ยง–ผลตอบแทน (Risk vs Reward)
ตำแหน่งเดิมพัน | อัตราจ่าย | ความเสี่ยง | ความเหมาะสมสำหรับมือใหม่ |
---|---|---|---|
Player | 1:1 | ต่ำ | ✅ เหมาะมาก |
Banker | 0.95:1 | ต่ำ | ✅ เหมาะมาก |
Tie | 8:1 – 9:1 | สูง | ❌ ไม่แนะนำสำหรับเริ่มต้น |
Pair | 11:1 | สูง | ⚠ ควรใช้เป็นเดิมพันเสริม |
Perfect Pair | 25:1 | สูงมาก | ❌ ใช้ได้เฉพาะจังหวะพิเศษ |
คำแนะนำสำหรับมือใหม่ เริ่มอย่างไรให้ไม่เจ็บตัวเร็ว
เริ่มจาก Banker หรือ Player เป็นหลัก
เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด และให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาวหลีกเลี่ยง Tie และเดิมพันเสริมในช่วงแรก
ถึงจะจ่ายสูง แต่โอกาสเกิดน้อยมาก เสียมากกว่าได้กำหนดงบต่อรอบ และใช้สูตรเดินเงินแบบง่าย
เช่น แทงเท่ากันทุกตา หรือใช้สูตร 1–3–2–6 เพื่อควบคุมความเสี่ยงไม่ควรแทงทุกตาแบบกระจาย
เพราะจะทำให้การควบคุมทุนและการวิเคราะห์ผิดเพี้ยน
อัตราจ่ายบาคาร่า และ ความได้เปรียบของเจ้ามือ ก่อนเริ่มวางเงินเดิมพัน
หนึ่งในจุดที่มือใหม่หลายคนมักมองข้ามในเกม บาคาร่าออนไลน์ คือ “อัตราจ่าย” ของแต่ละรูปแบบเดิมพัน และสิ่งที่ตามมาคือการเข้าใจผิดว่าแทงแบบไหนก็มีโอกาสชนะเท่า ๆ กัน ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว เบื้องหลังของแต่ละตำแหน่งบนโต๊ะบาคาร่านั้นมีความแตกต่างในเชิงสถิติอย่างมีนัยสำคัญ
บทความนี้เราจะพาคุณไป เจาะลึกอัตราจ่ายบาคาร่า ทีละแบบ พร้อมอธิบายว่า “House Edge” หรือ ความได้เปรียบของเจ้ามือคืออะไร มีผลยังไงกับผู้เล่นในระยะยาว และเราควรเลือกเดิมพันอย่างไรให้ คุ้มค่าทั้งระยะสั้นและยั่งยืนในระยะยาว
อัตราจ่ายบาคาร่า ไม่ได้จ่ายเท่ากันทุกตำแหน่ง
ในเกมบาคาร่าออนไลน์มาตรฐาน (เช่น UFACASINO, SA, SEXY BACCARAT) จะมีตำแหน่งเดิมพันหลัก ๆ ดังนี้
ตำแหน่งเดิมพัน | อัตราจ่าย | ความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge) |
---|---|---|
Banker (เจ้ามือ) | 0.95:1 | ~1.06% |
Player (ผู้เล่น) | 1:1 | ~1.24% |
Tie (เสมอ) | 8:1 หรือ 9:1 | ~14.4% – 4.8% (แล้วแต่ค่ายเกม) |
Banker/Player Pair | 11:1 | ~10% – 11% |
จากตารางนี้ เราจะเห็นชัดว่า ฝั่ง Banker มี House Edge ต่ำที่สุด ซึ่งหมายความว่าในระยะยาว เจ้ามือจะได้กำไรจากฝั่งนี้น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับฝั่งอื่น ๆ ทำให้กลายเป็นตำแหน่งที่ “คุ้มค่าที่สุด” สำหรับผู้เล่นที่คิดเชิงกลยุทธ์
House Edge คืออะไร? และทำไมควรสนใจ
House Edge หรือ “ความได้เปรียบของเจ้ามือ” คือค่าเฉลี่ยทางสถิติที่บอกว่าในระยะยาว คาสิโนจะได้เปรียบผู้เล่นมากแค่ไหน ตัวเลขนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะแพ้ทันทีในทุกตา แต่หมายถึงว่า หากคุณเล่นซ้ำ ๆ หลายร้อยตา โอกาสเสียจะเพิ่มขึ้นตามค่าที่กำหนด
เช่น ถ้าคุณแทง Banker 1,000 ครั้ง ด้วย House Edge ~1.06% คุณอาจเสียเงินประมาณ 1,060 บาท จากยอดเดิมพันรวม 100,000 บาท (แม้คุณจะชนะในหลาย ๆ ตาก็ตาม)
นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นระดับมืออาชีพถึงไม่ค่อยเสี่ยงกับตำแหน่ง Tie หรือ Pair เพราะแม้อัตราจ่ายจะสูง แต่ House Edge ก็มากตามไปด้วย
วิเคราะห์ความคุ้มค่าของการเดิมพันแต่ละแบบ
1. Banker – ตัวเลือกที่คุ้มค่าระยะยาว
ด้วย House Edge ที่ต่ำที่สุด การแทง Banker จึงเป็นกลยุทธ์หลักของผู้เล่นสายระยะยาว แม้จะมีการหักคอมมิชชั่น 5% แต่โอกาสชนะอยู่ที่ ~45.8% ซึ่งมากกว่าฝั่ง Player
2. Player – ความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับคนเริ่มต้น
อัตราชนะน้อยกว่า Banker เล็กน้อย แต่ไม่มีค่าคอม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่ที่ต้องการความโปร่งใสในการคำนวณกำไรขาดทุน
3. Tie – ผลตอบแทนสูง แต่โอกาสต่ำ
จ่าย 8 หรือ 9 เท่า แต่โอกาสออกเพียง ~9.5% เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ “แทงเฉพาะจังหวะ” ไม่ใช่แทงทุกตา
4. Pair – เล่นได้ แต่อย่าหลัก
ใช้แทงเสริมในรอบที่มีแนวโน้มไพ่ซ้ำหรือลักษณะเด่นเชิงสถิติ เช่น เจอไพ่คู่ติดกันหลายตา
เปรียบเทียบ กำไรสั้น vs ความเสี่ยงระยะยาว
กลยุทธ์การเล่น | ผลตอบแทน (สั้น) | ความเสี่ยง (ยาว) | เหมาะกับใคร |
---|---|---|---|
แทง Banker ซ้ำ ๆ | ปานกลาง | ต่ำ | ผู้เล่นระยะยาว / เล่นจริงจัง |
แทง Player เท่า ๆ กัน | ปานกลาง | กลาง | มือใหม่ / เล่นตามทุน |
แทง Tie / Pair สลับ | สูงมาก | สูงมาก | ผู้เล่นสายเสี่ยง / สายบันเทิง |
สรุปวิธีเล่นบาคาร่า ให้ยั่งยืน เล่นอย่างมีสติ มีเป้าหมาย รู้ลิมิตของตัวเอง
โลกของ บาคาร่าออนไลน์ ซึ่งเต็มไปด้วยกลยุทธ์ เทคนิค และคอนเทนต์มากมายที่สอนวิธี “แทงยังไงให้ได้เงิน” คำถามที่ผู้เล่นควรย้อนถามตัวเองให้ชัดเจนที่สุดคือ “เป้าหมายของวิธีเล่นบาคาร่า คืออะไร?” เพราะความแตกต่างระหว่างคนที่ เล่นบาคาร่าเพื่อความบันเทิง กับคนที่พยายาม “หาเงินทางลัด” โดยไม่วางแผน มักนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว
เราจะมาสรุปทุกสิ่งที่คุณควรรู้ตั้งแต่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณอยาก เล่นบาคาร่าให้ได้เงินจริงอย่างยั่งยืน โดยไม่เสี่ยงเกินตัว และยังคงสนุกกับเกมได้อย่างมีความรับผิดชอบ
1. รู้กติกาคือจุดตั้งต้น ไม่ใช่แค่พื้นฐาน
ผู้เล่นที่ดีควรเข้าใจกติกาแบบละเอียด ไม่ใช่แค่รู้ว่าต้องแทงฝั่ง Player หรือ Banker เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจโครงสร้างของเกม เช่น
การแจกไพ่
เงื่อนไขการจั่วไพ่ใบที่สาม
อัตราจ่ายของแต่ละตำแหน่ง
ความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge)
2. วางแผนการเล่น และใช้สูตรอย่างมีสติ
การ วิธีเล่นบาคาร่าให้ได้เงิน ไม่ได้หมายความว่าต้องชนะทุกตา แต่คือการจัดการ “ความเสี่ยง” ให้ได้มากที่สุด สูตรต่าง ๆ เช่น Martingale, Paroli หรือการดูเค้าไพ่ มีประโยชน์ แต่ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ใช้ได้ตลอดเวลา
สิ่งที่สำคัญกว่าคือ
รู้ว่าจะใช้สูตรไหนในสถานการณ์ไหน
ตั้งเป้าหมายกำไรต่อวันให้ชัดเจน
กำหนด “จุดตัดขาดทุน” (Stop Loss) ทุกครั้งที่เล่น
อย่าทบเงินแบบไร้สติ หรือเล่นไล่ทุนเมื่อแพ้
3. เล่นบาคาร่า = ความบันเทิง ไม่ใช่รายได้ประจำ
แม้จะมีคนโชคดีทำเงินได้จากบาคาร่า แต่ก็ไม่ควรสับสนระหว่างการ “ทำกำไร” กับ “ยึดเป็นอาชีพหลัก” เพราะความเสี่ยงของการพนันคือความไม่แน่นอน และมีปัจจัยทางจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แนวคิดที่ควรจำให้แม่นคือ:
“เล่นได้ = กำไร เล่นเสีย = ค่าใช้จ่ายในความบันเทิง”
หากรู้สึกว่าเริ่มเครียดหรือหวังรวยเร็วเกินไป แปลว่าคุณเริ่มเล่นผิดเป้าหมายแล้ว
4. แนวทางแบบมืออาชีพ วินัยสำคัญกว่าสูตร
ผู้เล่นระดับมืออาชีพไม่ได้ชนะทุกตา แต่พวกเขามีสิ่งที่เรียกว่า “วินัยในการเดิมพัน” และนั่นคือจุดที่แยกนักเล่นจริงจังออกจากนักพนันที่พึ่งดวง
แนวทางการเล่นอย่างมืออาชีพ ได้แก่:
เล่นตามงบ ไม่เติมเพิ่มระหว่างเล่น
หยุดทันทีเมื่อครบเป้ากำไร หรือขาดทุนเกินลิมิต
ไม่เล่นเพื่อเอาคืน
วิเคราะห์สถิติก่อนเล่นเสมอ
ทบทวนผลการเล่นของตัวเองอยู่เสมอ